คุยแซ่บShow

นิโคล เคลียร์ชัด ลูกชาย น้องทิกเกอร์ เข้าวงการ เพราะแม่ใช้เส้นดันหรือเปล่า?!

คุณแม่ยังสาว นิโคล เทริโอ ขอควงลูกชายสุดฮอต น้อง ทิกเกอร์ วัย 17 ปี ที่ตอนนี้เป็นลูกไม้ใต้ต้น เป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว พร้อมเคลียร์ประเด็นใช้เส้นสายดันลูกชายเข้าวงการ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ สาเหตุที่เราอยากเป็นศิลปิน เพราะคุณแม่เป็นศิลปินหรือเปล่า? ทิกเกอร์ : เกี่ยวข้องบ้าง จริงๆ มันเป็นธรรมชาติ ผมชอบศิลปะอยู่แล้ว พอเห็นว่าผมเขียนเพลงได้หรือมีโอกาสแบบนี้ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุด แม่ภูมิใจลูกขนาดไหน? นิโคล : ดีใจที่เขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก และเอ็นจอย กี้รู้จักลูกดีว่าแบบอะไรที่ไม่ใช่ตัวเขามันจะเห็นชัดเลยว่ามันไม่ใช่แล้วกี้ไม่มีทางที่จะดันแบบ...ไม่ๆ  แต่จะซัพพอร์ตหนุนอยู่ข้างหลัง บางทีความปลื้มของเรา เขาก็ต้องเอาเราไปเก็บเพราะเราจะเยอะ กรี๊ดแบบ...คือเราลืมไง ด้วยความที่เราเป็นแม่ การที่มีพ่อ แม่ ดังทั้งคู่มันกดดันเราไหม? ทิกเกอร์ : ไม่ค่อยครับ แต่ผมกดดันตัวเองมากกว่าว่าแบบวันนี้เสียง การแสดงโอเคไหม เราตั้งแม่ไว้เป็นต้นแบบไหมว่าผมต้องเก่งเท่าแม่ให้ได้? ทิกเกอร์ : ครับ แบบวิธีการทำงานต้องให้เท่าแม่ให้ได้ ทุกวันนี้ลูกคุมคุณแม่ร้องเพลง? นิโคล : เทคนิคการร้องเพลงมันไม่เหมือนกับตอนที่พี่กี้ร้องเพลง เราพยายามนะ แต่มันไม่เหมือนกัน ความเอื้อนมันจะต่างกัน แม่เป็นศิลปินมาก่อน มีวิธีการสอนหรือแนะแนวทางลูกยังไงบ้าง? นิโคล : ไม่ได้มาบอกว่าอย่างนี้ๆ นะ เพราะกี้คิดว่าประสบการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่เจอไม่เหมือนกัน ตอนนี้การทำงานของกี้กับทิกเกอร์น่าจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เอารวมๆ ก็ทีละก้าวๆ  ทำอะไรที่เราต้องทำให้ดีที่สุด แล้วผลเป็นยังไงเราก็ต้องภูมิใจในสิ่งที่เราทำ  แต่มีงานหนึ่งที่คุณแม่ทำลูกหลงทาง คือไปตีบทให้ลูกหลงทาง? นิโคล : ใช่ๆ เราก็มีบทเรียนของเราด้วย ก็คือเตรียมออดิชั่นหนัง บทดีจัง ผู้กำกับอยากเจอว่าทิกเกอร์เหมาะไหม ก็มีบทมาให้หน้าหนึ่ง เราก็ต้องสร้างอดีตเอง คือเราเรียนมาสร้างอดีตให้ตัวละครแน่นๆ เวลาทำอะไรมันก็จะชัดเจนอยู่ในนั้น แต่บทไม่มีอะไรเลย แล้วพาลูกหลงทางยังไง หมายถึงตอนที่พาลูกไปออดิชั่นต่อหน้าผู้กำกับเราเล่นเกินไปเหรอ? ทิกเกอร์ : เหมือนผมเล่นเป็นบทดราม่ามากกว่า ใช้สายตาเกินไป  นิโคล : เราผิดเอง ทิกเกอร์ : ผู้กำกับก็บอกว่ามันไม่ต้องขนาดนั้น สบายๆ คุยกับแม่เป็นเพื่อน...

“หมอพรทิพย์ เปรยคดีแตงโมเป็นคดีแรกที่ตัวแทนผู้ตายไม่อยู่ข้างผู้ตาย! ลั่นไม่รู้คดีจะจบยังไง ช่วยไขข้อสงสัย โดนทนายดังด่าเละ”

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เปิดใจคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม  พร้อมยืนยันจุดตกเรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เผยเรื่องกระแสที่เข้ามาคน กล่าวหาหิวแสง ยันตนเองไม่รู้แนวโน้มคดีและไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทุกประเด็นในรายกา รคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา ธัญญ่า ธัญญาเรศ และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ...

“เมย์-พิชญ์นาฏ” ย้อนเล่าเส้นทางรัก ไฮโซบิ๊ก จากเพื่อนเปลี่ยนสถานะเป็นแฟน พูดชัด…พร้อมแต่งแล้ว!”

สาวสวยสุดแซ่บ เมย์ พิชญ์นาฏ ที่วันนี้จะมาเล่าโมเมนต์หวานๆ หลังเจ้าตัวควงหวานใจ ไฮโซบิ๊ก บินลัดฟ้าไปกระชับรักต่างแดน พร้อมเล่าเส้นทางความรักจากเพื่อนขยับสถานะมาเป็นแฟน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ล่าสุดเมย์จะกลับมาเล่นละครที่ช่องวัน เขาบอกว่านี่เป็นนางร้ายตัวแม่เลยเหรอ?เมย์ : จริงๆ เมย์เล่นทุกบท ตั้งแต่เด็กมาก็เล่นหนัง เป็นนางเอกบ้าง เป็นตัวร้ายบ้าง คือคุณแม่เป็นโรคที่แบบว่าทุกครั้งที่เห็นเราเล่นร้ายเขาเสียใจ เขารู้สึกทำไมต้องร้าย คือหัวโบราณทำไมต้องร้ายขนาดนั้น ลูกไม่กลัวคนเขามองเรานิสัยไม่ดีเหรอ เราก็แบบเอ้า..มันคือละครไหมอะ โอเคเรื่องหลังๆ พยายามเอาใจแม่ก็เล่นเป็นคนดี แต่ต้องยอมรับว่าเวลาเล่นร้ายมันสนุก แต่ช่างมันเถอะ เวลาเขาเขียนข่าว ไปเที่ยว นางร้ายตัวแม่นู้น นั่นนี่ เราก็เลยแบบคนคงชอบแบบนี้มากกว่า เรารู้ใช่ไหมลุคของเราคือนางร้าย?เมย์ : เปรี้ยวๆ เมย์ไม่ได้เรียบร้อย แต่ไม่ได้แปลว่าเมย์นิสัยไม่ดีนะ เมย์ก็แค่อาจจะดูเซ็กซี่มั้งเวลาถ่ายแบบ เรื่องความรักล่าสุดไปเที่ยวกันมา?เมย์ : ไปสวิต ปารีส คือแฟนเมย์เขางานเยอะ งานเขาจะไม่เหมือนคนอื่น คือเขาขายรถ แล้วรถมักจะขายดีตามเทศกาลต่างๆ ฉะนั้นช่วงเทศกาลเขาจะไม่อยากไปไหน เขาต้องคอยเช็กรถ เช็กสต็อก ทำราคา ตอนแรกเราวางแพลนว่าจะไปพฤษภาคม ก็ทำใจแล้ว สงกรานต์เราคงเที่ยวทะเลอยู่นี่ อยู่ดีๆ ใกล้ๆ เขาคงเห็นน้องสาวเขาไปเที่ยว เขาเลยบอกไปเที่ยวกันเถอะ เดี๋ยวพาไป เขาเคยพูดไว้นานแล้ว เดี๋ยวพาไปสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเมย์ไม่เคยไปเลย เขาบอกว่ามันสวยมากเลย เราจองกะทันหันมาก ต้องยอมรับว่าทุกอย่างมันแพงไปหมดเลย แต่อะ 2 ปีที่ไม่ได้ไปก็ให้โบนัสตัวเองแล้วเขาก็บอกว่าเอาพี่กอล์ฟ ผู้จัดการเราไปด้วยสิ เขาทำทัวร์มาก่อน เลยให้เขาพาเที่ยวก็สนุกดีไปกัน 3 คน แล้วนอนกันยังไง?เมย์ : เมย์ก็ต้องนอนคนเดียว เขาก็นอนกัน 2 คน ที่ฮือฮาคือใส่บิกินี่ท้าลมหนาว?เมย์ : ก็เป็นโรงแรมโรงแรมนึง ข้างหลังเป็นภูเขา คนถามว่าน้ำหนาวไหม จริงๆ คือน้ำอุ่น บรรยากาศดี ถามว่าแฟนหวงไหม เขาก็อยู่ข้างๆ นี่แหละ เป็นคนถ่ายให้ เวลาจะลงก็ให้เขาดูก่อน เขาก็แบบอันนี้ดูโป๊ไป เอารูปนี้ดีกว่า ก็จะมีเลือกให้บ้าง มันเคยแว๊บไหมว่าสุดท้ายอยากแต่งงานกับบิ๊ก?เมย์ : เราคบใคร เราก็จริงจังหมดนะ แต่มันตอบไม่ได้หรอกว่าคนไหนไปถึงขั้นไหน แต่กับคนนี้เอาจริงๆ เราอายุมากแล้ว ถ้าถามความพร้อมเรา เราพร้อมตั้งแต่ 30 นี่เลยมานานแล้ว จนเรารู้สึกว่าถ้าเรารอมานานขนาดนี้ เราจะรออีกสักหน่อยจะเป็นไร ตอนที่เขามาขอเราเป็นแฟน เขามั่นใจแล้วว่าเขาจะทำหน้าที่แฟนได้ดีที่สุด เขาเลยมาขอ เราคิดอย่างนี้นะ แล้วเราก็มีความสุขมาก ทุกวันนี้เขาทำหน้าที่แฟนที่ดี แล้วเราก็แฮปปี้มากๆ เราไม่เคยมีแฟนคนไหนที่เข้ากันได้ทุกเรื่อง เป็นตัวเองได้เต็มที่ บางทีเขาสอนเราได้ด้วยแต่จริงๆ เขาอายุน้อยกว่าเรานะ แต่คือเขามีความเป็นผู้ใหญ่ หรือบางครั้งเราก็แชร์กัน ความคิดเราคิดอย่างนี้ เขาคิดอย่างนี้ แล้วเรารับฟังกัน ซึ่งมันดีมาก ฉะนั้นถ้าวันนึงที่เขาพร้อมเดี๋ยวเขาก็มาเองแหละ เราไม่ไปกดดันเขาดีกว่า มีหยอดไหม?เมย์ : เคยคุยกัน ตอนก่อนโควิดก็เริ่มมีเกริ่นๆ บ้างหรือบางทีอาจจะคนรอบข้างเราไปถามเขา แล้วเขาอาจจะพูดอะไรสักอย่าง คนรอบข้างก็มาบอกเราเห้ย...ใกล้แล้วนิ ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอก แต่ก็เลยจากตรงนั้นมา 2 ปีแล้ว ซึ่งมันก็เป็นช่วงโควิด เราก็คิดว่าเออเราอย่าไปเร่งรัดเลย เพราะว่า 1.คือพ่อ แม่ เราแก่แล้วถ้าเอาผู้ใหญ่มารวมกัน แล้วมากดดันว่าต้องอย่างนี้ๆ เราว่ามันไม่แฮปปี้ สมมติว่ามันเกิดขึ้นเดือนหน้าหรือปีหน้า เราโอเค?เมย์ : โอ้ย...วันนี้ก็โอเคแล้ว ตั้งแต่คบบิ๊กมา เมย์เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก นอกจากงานวงการบันเทิง เมย์ยังใส่ใจงานของบิ๊กอีกด้วย?เมย์ : คือเราก็อยากให้กำลังใจ ถามว่าเขาจ้างไหม ไม่เราไปเอง ก็รู้แหละเขาจ้างเซเลป บางทีก็แซวเล่นๆ เมย์ไม่เห็นได้ค่าคอมเลย นี่ส่งดารามาซื้อรถกี่คนแล้วเนี่ย ก็แซวเล่น เขาน่ารักนะ เขาไม่เคยใช้เราต้องมาทำงานเลย แต่เรารู้สึกว่าเรามีประโยชน์ ใช้เราสิ เขาก็ไม่ใช้ ก็เสนอหน้าเองตลอด อย่างน้อยก็เอาดอกไม้ไปให้ก็ยังดี คิดถึงเรื่องเบบี๋ไหม อยากมีลูกไหม?เมย์ : จริงๆ เมย์ฝากไข่ตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว ณ เวลานั้นไม่ใช่อยากมีตอนนั้นหรอก แต่เราคิดว่าคนเราเกิดมา สุดท้ายเป้าหมายชีวิตเรา คือเราเกิดมาในครอบครัวที่โอเคพ่อแม่เรารักกัน ครอบครัวเรามีความสุข วันนึงเราก็อยากมีครอบครัวที่เป็นแฟมิลี่ ฉะนั้นลูกก็คือการเติมเต็ม ถ้าอนาคตเราอยากมีแล้วมีไม่ได้เราไม่อยากพลาดตรงนั้น เราก็เลยไปฝากไข่ ก็เวลาคบใครในเวลาที่เราฝากไข่ เราก็ไปเก็บค่าฝากกับเขา คือมันก็มีความน่าจะเป็นว่าเป็นลูกเธอ เขาก็จ่ายค่าฝากไข่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาก็เคยพูดว่าในอนาคตเขาก็อยากมี เมย์เคยแพลนไหมว่าอยากมีลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย?เมย์ : คือเมย์แก่แล้ว คงไม่ได้ท้อง 2-3 รอบ เท่าที่คิดตอนนี้ คือเมย์เกิดปีไก่เขาเกิดปีมะโรง ถ้าเมย์มีลูกก็อยากให้ลูกเกิดปีมะโรง ก็อีก 2 ปี เพราะมันจะได้เสริมดวงกัน ก็อีก 2 ปีต้องมีลูก ถ้าไม่มีก็คือไม่มีแล้ว ก็ต้องยอมรับตรงนั้นว่าเราจะอยู่กันแบบไม่มี แต่เมย์ก็แฮปปี้นะ เมย์ว่าเราต้องมีความสุขในทุกทาง สุดท้ายเราก็ตอบไม่ได้หรอก เอาจริงที่พูดมาทั้งหมด พรุ่งนี้เขาอาจจะบอกเลิกเมย์ก็ได้ ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้นเมย์ก็พร้อมที่จะขึ้นคาน เพราะเรารู้สึกว่าเราโตขนาดนี้อย่ามาเสียหลักตอนแก่เลย เราต้องอยู่ให้ได้ มีความสุขในทุกแบบที่เราเป็น ทำไมบิ๊กใช่กับเมย์มากที่สุด?เมย์ : เมย์ไม่ได้บอกว่าคนเก่าๆ ไม่ดีนะ บางทีเขาอาจจะมีบางอย่างที่ดี อาจจะดีกว่าบิ๊กก็ได้ แต่ถ้าตะเอาข้อดีของคนนี้ที่ไม่เหมือนคนอื่นก็คือ เขามีความเป็นผู้นำ เขาสามารถดุเมย์ได้โดยที่เมย์ไม่โกรธ แล้วเราก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน เราเคยเรียนคอร์ส ABC ด้วยกัน ตอนนั้นอยู่คนละกลุ่มกัน ตอนที่เรียน ต่างคนต่างมีแฟน แต่วันนึงที่เราไม่มีแฟน เราก็เริ่มรู้สึกว่าเราควรจะสนิทกับเพื่อนๆ หลายๆ คน ก็เริ่มคุยกับเพื่อนบ้าง แต่ก่อนเรียนแล้วก็กลับ ไม่เอาใครนอกจากกลุ่มของตัวเอง ก็เริ่มคุยกับคนกลุ่มอื่น จนวันนึงก็เริ่มสนิท ซึ่งเราก็รู้จักเขา รู้จักแฟนเขา ตอนนั้นเราก็เริ่มมีคนคุยก็เอามารู้จักกันก็กลายเป็นเพื่อน วันนึบเขาก็เลิกกับแฟนก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ มันเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนตอนไหน?เมย์ : เขาอาจจะไปลองคบคนนู้น คนนี่แล้วมันไม่ใช่แล้วเราก็ไปลองคบคนนู้น คนนี่แล้วมันก็ไม่ใช่ แล้ววันนึงเราก็มานั่งกินข้าวด้วยกันแล้วบ่นกันอยู่ 2 คน มันเป็นจังหวะที่มองหน้ากัน เมย์ก็ไม่รู้ว่ามันสปาร์คกันหรืออะไร มันก็แบบขนลุกแล้วเราก็นึกถึงคนรอบตัวเราที่ชอบพูดว่าเนี่ยโสดทั้งคู่ทำไมไม่คบกันละ เป็นเพื่อนกันคบกันดีนะ เราก็รู้สึกบ้า เป็นเพื่อนกันคบกันน่าอายออก มันตลก เพื่อนมันไม่ควรกินกันเอง เราก็จะคิดแบบนี้มาตลอด จนเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นไปตอนไหน แล้วอยู่ดีๆ เขาถามว่า จริงๆ เราคิดอะไรกันหรือเปล่า มีอยู่วันนึงเมย์กดไปหาเขา แต่กดผิด มันเป็นเฟซไทม์ เขาก็คงตกใจว่าเราวีดิโอคอลมาทำไม เขาก็ทำหน้าตกใจ เราก็ขอโทษกดผิด อยู่ไหนเนี่ย เขาบอกอยู่บ้านไม่สบายเอ้า...ไม่สบายเหรอ เอายาไหม เดี๋ยวซื้อไปให้  เขาก็คงรู้สึกประทับใจ เขาก็เลยคิดว่าเราคิดอะไรหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้คิด แล้วหลังจากนั้นที่มากินข้าวด้วยกัน เขาก็ถาม เราก็บอกบ้า ไม่ใช่ เขาถามว่าอะไร?เมย์ : นี่เราแอบชอบกันหรือเปล่า เราก็แบบบ้า ไม่ใช่ แล้วหลังจากนั้นมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย จากวันนั้นถึงวันนี้นานเท่าไหร่แล้ว?เมย์ : ถ้าเอาตั้งแต่รู้จักกัน แล้วเป็นเพื่อนธรรมดา 6 ปี ที่เป็นแฟนก็เกือบๆ 3 ปี เวลาจากเพื่อนมาเป็นแฟนต้องปรับเปลี่ยนอะไรไหม?เมย์ : ก็อาจจะเปลี่ยนเวลาที่จะไปคอมเมนต์เรื่องผู้ชายคนอื่น คือตอนที่คบกันใหม่ๆ มันมีคนที่ไม่เข้าใจหรือใครที่พยายามแบบไปแย่งคนเก่ามา หรือคบซ้อน เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ แล้วตอนไม่ได้คิดคือไม่ได้คิดจริงๆ  คุณบิ๊กสเปคไหม?เมย์ : ถ้าเมื่อก่อนไม่ใช่ แต่ทุกวันนี้ต้องใช่แหละ จริงๆ สเปคเมย์ เมย์เคยบอกว่าชอบคนขาว คนตี๋ อันนี้ใช่ แต่จริงๆชอบคนที่อายุเท่ากันหรือมากกว่าแต่อันนี้เขาน้อยกว่าเมย์หน่อยนึงแต่เขามีความเป็นผู้นำ ปกติเมย์จะเจอคนที่แบบไม่ตามไปเลยก็ไม่ได้มีความเป็นผู้นำที่ทำให้เราฟังเท่าไหร่ ครอบครัวทั้งคู่เป็นยังไงบ้าง?เมย์ : ที่บ้านพ่อ แม่ก็โอเคกับเขา คนรอบข้าง เพื่อนๆ ก็จะรู้สึกว่าคนนี้โอเค คือเขาเข้ากับคนง่าย ส่วนที่บ้านเขาก็ต้องไปถามเขาแหละ แต่จริงๆ ก็เจอกับที่บ้านเขาบ่อย พี่สาว น้องสาวเขาน่ารัก พ่อแม่เขากับพ่อแม่เราคุยกันไหม?เมย์ : เคยเจอกันครั้งนึง ก็บังเอิญเจอนะไม่ได้นัดให้มาเจอ ก็เจอที่เขาใหญ่ นั่งคุยกันก็โอเคดูคุยกันรู้เรื่อง...

ดีเจมะตูม ควง คุณยายอนงค์ เปิดชีวิตช่วงโควิด แม่โดนด่า ยายต้องปิดร้าน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้!

ดีเจมะตูม เตชินต์ ที่วันนี้ควงคุณยายอนงค์ สายทอง ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นยูทูปเบอร์สายฮาไปแล้ว พร้อมเผยความสนิทของยายหลานที่เลี้ยงกันมาตั้งแต่เกิด ไม่ปิดกั้นเรื่องเพศผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ พี่นงค์ทำไมอยู่ดีๆ ถึงทำช่องยูทูบกับมะตูม?ยายนงค์ : วันนั้นเขาไปที่สวน ไปหายาย ขอพร...

จุ๋ย-พุฒ เผยโมเมนต์น่ารักของชีวิตคู่ มีเรื่องเดียวที่จุ๋ยยอมพุฒคือเรื่องบนเตียง?

เปิดใจคู่รักสุดหวาน ดีเจพุฒ พุฒิชัย และภรรยาคนสวย จุ๋ย วรัทยา ที่วันนี้จะมาเผยความคืบหน้าของการตั้งท้อง สรุปท้องแล้วรอฤกษ์ประกาศข่าวดี หรือว่าอยู่ในกระบวนการผลิตกันแน่ และไม่ว่าจะทำอะไรหนุ่มพุฒต้องขออนุญาตสาวจุ๋ยก่อนทุกเรื่อง โดยทั้งคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ที่มีชมพู่ ก่อนบ่าย และตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ อัปเดตเรื่องมีน้องหน่อย บางคนบอกว่ามีแล้วหรือเปล่า แต่ปิดบังเอาไว้? ดีเจพุฒ : จริงๆ ถามมาเยอะมาก ก็อย่างที่ตอบไป ตอนนี้อยู่ในกระบวนการทางการแพทย์ ถ้าเรามีน้อง เราบอกทุกคนแน่นอน คือเราปรึกษาคุณหมอมา 2 ปีแล้ว เราสองคนสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี ก็เลยมีการเตรียมร่างกายค่อนข้างนาน จุ๋ย : เราไม่เคยคิดว่าเป็นคนมีลูกยากมาก่อนเลยนะ มั่นใจมากว่ามีง่ายแน่ๆ ถ้าปล่อยคงติด พอเรารู้ผลเลือดเราก็ช็อกนิดนึง เรามียากขนาดนั้นเลยเหรอ ก็เคยบอกไปหลายๆ ที่ว่าเรามีจุดดาวน์เหมือนกัน เขาก็จะดูแลความรู้สึกทุกอย่าง ความเป็นแม่ เตรียมตัว อารมณ์แปรปรวนมากกว่าเดิมไหม? จุ๋ย : บอกไว้เลย เพราะว่าจุ๋ยจะต้องฉีดฮอร์โมน ต้องกินฮอร์โมน หลายเดือนที่ผ่านมาก็ทำมาตลอด แล้วก็อ้วน คนทักว่ามีแล้ว คืออ้วน ฮอร์โมนมันทำให้บวม ก็บอกเขาว่านี่รู้สึกเซนซิทีฟนะ หงุดหงิดนะ ก็เตือนเขาไว้เลยว่าอย่ามีปัญหากันตอนนี้ พี่จุ๋ยอยากได้ลูกชายหรือลูกสาวมากกว่ากัน? จุ๋ย : ณ ตอนที่มายากจุ๋ยแบบอะไรก็ได้ ขอให้เขามา จริงๆ เรา 2 คนอยากจะมีน้อง ด้วยยุคสมัยแบบนี้บางคู่อาจจะไม่อยากมี แต่ว่าเราสองคนเป็นคนรักเด็ก ใจอยากมี แต่ก็ทำใจไว้นะ 50/50 ถ้ามีไม่ได้ก็คุยกันแล้ว เที่ยวรอบโลก คือคุยกันเบอร์นั้นแล้ว เพศไม่สำคัญเลย ตอนที่มีความคาดหวังคู่นี้มูเตลูกันหนักไหม? จุ๋ย : จริงๆ เราเป็นสวดมนต์ไหว้พระอยู่แล้ว พยายามนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบด้วย จะขอให้ร่างกายแข็งแรงมากเหมาะสมถ้าจะมีตัวน้อยๆ มาเกิด ขอให้ร่างกายเรารับได้ ส่วนชื่อลูกเราไม่ได้ตั้งไว้เลย เรามองเป็นสเต็ปๆ ไป ทั้งคู่แต่งงานมา 4 ปีแล้ว? จุ๋ย : ครบรอบ 3 ปีเมื่อพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ก็เข้าสู่ปีที่4 ตอนนี้มีอะไรต้องปรับเข้าหากันอีกไหม? จุ๋ย : ไม่มีแล้วนะ ดีเจพุฒ : มีบ้างนิดหน่อย คุณชอบถอดเสื้อผ้ากองไว้ตามบ้าน คืออะไร? ดีเจพุฒ : ของผมถอดเป็นชิ้นๆ คือคุณจุ๋ยเขาจะถอดเสื้อผ้าวางไว้ตามจุดมุมต่างๆ  ทำไมไม่ใส่ตะกร้า? จุ๋ย : ใส่ค่ะ แต่บางอันมันต้องผึ่งก่อน พวกกางเกงยีนส์ที่มันหนาๆ ...

น้ำฝน-กุลณัฐ ช็อกหนักลูกสาว น้องทาเรีย ติดโควิด 2 รอบ พร้อมเผยเตรียมออกจากวงการไปอยู่อเมริกาถาวร จริงไหม?

นักแสดง และผู้จัดละครคนเก่ง น้ำฝน กุลณัฐ ที่วันนี้ขอควงลูกสาวคนสวย น้องทาเรีย มาเปิดใจเหตุการณ์สุดพีคลูกสาวติดโควิด 2 รอบ พร้อมเปิดใจครั้งแรก วินาทีพบก้อนเนื้อที่หน้าอก เครียดหนักถึงขั้นร้องไห้กอดลูก เขียนพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการย้อนไปรอบแรกที่น้องทาเรียเป็นโควิด ตอนนั้นเป็นที่อเมริกาใช่ไหม?น้ำฝน : ท้าวความตั้งแต่แม่ก่อน แม่เป็นตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน ปีที่แล้วที่ภูเก็ต หนีจากกรุงเทพฯไปภูเก็ต เพราะกรุงเทพฯโควิดเยอะ ไปได้ที่ภูเก็ต 10 วันอยู่โรงพยาบาล ลูกก็อยู่เองกับแนนนี่ พอออกมาเราก็จองตั๋วไว้แล้วว่าเราจะเดินทางไปอเมริกาบวกกับว่าเราต้องขับรถไปกรุงเทพฯด้วย คือแบบมันหลายอย่างมาก พอบินไปอเมริกาได้สัก 3 วันญาติคุณสามีเป็นก่อน เราก็กักตัว 7-8 วัน เราตรวจไม่มีใครเป็นอะไร เราก็ขับไปซานฟรานไปเยี่ยมญาติ อยู่วันที่ 27-29 เช้าวันที่ 30 ขับรถกลับ LA ปรากฏว่าตี 4 คนนี้ปีนขึ้นมา มามี๊นอนด้วย แต่แปลกมากเราจับตัวเขาไม่ร้อน พอมานอนเสร็จปุ๊บอ้วกออกมา แล้วเขาหันมาบอกว่ามามี๊ให้กินเยอะไป เราก็ท่าไม่ดีแล้วก็เอาปรอทวัดไข้มาวัด 38.5 ก็แบบไม่รู้จะคิดอะไร นอนไปก่อนลูก เอาผ้ามาเช็ดจนไข้ลงประมาณ 6 โมงเช้า แม่ถึงเริ่มหลับ แฟนก็ถามสรุปจะเอายังไงจะอยู่นี่ดูอาการลูกก่อน หรือจะขับกลับ LA  เมืองที่เราอยู่มันเลยจากซานฟรานไปอีก 2 ชั่วโมง ฉะนั้นมันเป็น 7 ชั่วโมง ก็เลยตัดสินใจว่าขับกลับ แต่ก่อนกลับ ตรวจ ATK ไม่ขึ้น ซึ่งตอนนั้นไข้เขาก็ยังไม่ได้ลงมาก 37.8 เราก็แบบเป็นไรว้าาพอถามเขาว่าจะกินข้าวไหมเขาก็ไม่กิน จะกินน้ำไหม เขาก็ไม่กิน ทีนี้แฟนกลัวว่าลูกจะขาดน้ำ ก็เลยให้กิน โอเคทาเรียถ้าทาเรียไม่กินข้าวไม่เป็นไรนะ ทาเรียต้องดื่มน้ำเรื่อยๆ เราก็ขับกลับมาเรื่อยๆ จำไม่ได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เขาพูดว่ามามี๊เจ็บหัว เราก็อยากเอาลูกมานอนที่ตัก สามีก็แบบอเมริกันๆ ไม่ได้อันตราย เราก็แบบสงสารไม่รู้จะพูดยังไง แล้วแฟนก็ถามว่าเธอหิวข้าวไหม ฝนกินไม่ลง ถามทาเรียหิวไหม เขาบอกเขาไม่กิน สามีหิว จะกินเบอร์เกอร์ ซึ่งช่วงกำลังหาร้านอาหารทาเรียอ้วกออกมาอีก ทีนี้เป็นแต่น้ำที่เพิ่งให้กินไป คิดในใจถ้าลูกเป็นรอบ2 ได้แน่ๆ ไม่รอดแน่ แล้วมารู้ได้ยังไงว่าน้องติดโควิด?น้ำฝน : หลังตากนั้น 3 วันผ่านไป คือมันไม่ได้แบบรู้ทันที วันนั้นผจญภัยหนักมาก ไม่ได้เข้าโรงพยาบาล แล้วไข้เขาก็ไต่มา 39 มา 38 คือลงก็ไม่ลง ลงมาแค่ 37.9 จนท้ายที่สุดพอขับกลับมาถึงบ้านมันเหลือ 36.8  คืองงมาก พอถึงบ้านถามเขาว่าหิวข้าวไหม เขาบอกหิว จะกินข้าวต้มกับไข่ เดี๋ยวก่อนนะ 7 ชั่วโมงในรถมันคืออะไร ผ่านมา 3 วันน้องก็เริ่มอาการปกติแล้วถึงรู้ว่าเป็น?น้ำฝน : ทาเรีย มีแค่ 24 ชั่วโมง ก็คือ 6 โมงเย็นของวันนั้น เขาสามารถทานข้าวได้ แม่ก็เริ่มโล่งใจแล้ว ก็เลยโทรมาคุยกับโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ คนคงสงสัยว่าทำไมถึงโทรมาคุยกับโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ เพราะคุณสามีไม่ยอมให้พาลูกไปโรงพยาบาล เขาบอกว่ามันแพงมาก คือเราไม่ได้มีประกันที่อเมริกา การที่จะไปหาหมอเริ่มแรกก็ 1,000 เหรียญเลย ก็เท่ากับ 33,000 บาท แค่พบหมอยังไม่รักษา แฟนบอกรอดู 2 วัน ฝนก็แบบ เห้ย...เราไม่ชิน อยู่เมืองไทยอะไรก็สะดวกไปหมด ก็เลยตัดสินใจโทรกลับมาคุยกับหมอที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ หมอก็แนะนำนู่น นี่นั่น เสร็จปุ๊บเขาก็ไม่มีไข้เลย แล้วไข่เขากลับมาอีกทีตอนตี2 คือแบบ 38 เลยนะ แล้วมาลงตอนตี4 แล้วก็หายไปเลย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็รู้ว่าเป็นโควิด?น้ำฝน : ใช่ นั่นคือวันที่ 30 วันที่31-1 กำลังขับรถพาเขาไปเล่นที่บ้านญาติที่เป็นคนแรก ญาติที่ซานฟรานโทรมาทางนั้นเป็นบวก เราก็แบบไม่รอดแน่ ปรากฏว่ารอด สงสัยเราคงเพิ่งเป็น แล้วทาเรียมาเจอว่าเป็นบวกวันไหน?น้ำฝน : หลังจากนั้นเราไม่ได้ตรวจ เราก็เดาแล้วว่าลูกต้องเป็น แล้วบวกกับสถานการณ์อเมริกาตอนนั้นคือระบาดหนักมาก ATK หมดตลาด ถ้าจะซื้ออันละ 20 เหรียญจากที่เคยแจกฟรี รู้ผลว่ามีคนเป็นวันที่1 ทาเรียได้คิว PCR วันที่ 12 จะพาไปตรวจทำไมวะ คือประชากรเขาเยอะ แล้วเขาเป็นแบบวันละแสนคน แล้วมันไม่พอ แล้วเราพก ATK จากประเทศไทยไปเหลืออยู่ 3 อัน เราเลยตัดสินใจตรวจให้ลูกในเดย์5 ถึงขึ้นบวก แล้วจะพาไป PCR ตอนนั้นคือเสียเงินแล้ว ไม่ฟรีสำหรับเขา รอบ2 เป็นมายังไง ทำไมติดอีกรอบ?น้ำฝน : ทาเรียเป็นรอบ2 ประมาณ 2 เดือน ไปติดที่ไหน?น้ำฝน : ไม่รู้ รอบสองติดที่เมืองไทย เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราทุกคนก็ใช้ชีวิตไปตามปกติ มารู้สึกตัวอีกทีในคืนวันอาทิตย์ ลูกปีนมานอนด้วยอีกแล้ว แม่ก็จะคลำก่อน มันดีกว่าปรอทอีกอะ ไม่ปกติ น่าจะ 37 ไม่ถึง 38 เราก็เลยให้ลูกนอนตรงกลาง แม่เอาผ้าห่มคลุมโปง พอตื่นเช้าขึ้นมายังอุ่นอยู่ ก็เลยเรียกแนนนี่บอกว่า เอาปรอทน้องขึ้นมา แล้วเอาแมสก์ขึ้นมาให้พี่ด้วย ก็ขึ้น 37.8 เสร็จแล้วเอา ATK ที่มันแพงๆ ที่บ้านมาตรวจเลยแล้วกัน เพราะว่าโรงเรียนอาจจะไม่ชัวร์ แล้วก็ขึ้นเลย 2 ขีด เสร็จแล้วทุกคนในบ้านก็ต้องไล่ตรวจ ปรากฏว่าคนที่โชคดีไปคือทาเรียกับแนนนี่ รอบ2 รักษายังไง?น้ำฝน : รอบ2 ด้วยความที่ลูก 37.8 เราตรวจปุ๊บลูกเป็นบวก ตกใจ แนนนี่ตรวจ แนนนี่ก็มือเย็น ลืมทาเรียไปเลยว่ามีไข้แม่ตรวจ พ่อตรวจ ทุกคนตรวจ ตื่นเต้นกันหมด ลืมให้ยาลดไข้ นึกได้ตอน 9 โมงวัดไข้ทาเรียอีกที 36.8 แล้วก็ไม่มีอะไรเลย รอบ2 ได้ไป PCR ไหม?น้ำฝน : ไปๆ วันนั้นก็พาไปโรงพยาบาล เพราะว่า 1.เราต้องใช้ผล PCR เนื่องจากยืนยันกับโรงเรียน แล้วก็ใบรับรองแพทย์ในการกลับไปที่โรงเรียน แล้วที่บ้านอยู่กันยังไง?น้ำฝน : ที่บ้านเป็นคอนโด แต่เป็นคอนโด 2 ชั้น มี2ห้องนอน เรา สามี แล้วลูกนอนห้องข้างบน ในเมื่อลูกกับแนนนี่เขาได้รับโชค เขาก็เลยอยู่ด้วยกันข้างล่าง เราก็บอกทาเรียห้ามขึ้นไปชั้น2 นะลูก เขาจะแฮปปี้มาเราจะใช้ไอแพคเป็นเครื่องล่อ จากเด็กที่ไม่เคยดูก็จะได้ดูทุกวัน ส่วนฝนอยู่ชั้นบน สามีนอนโซฟาข้างล่าง แต่ว่าเขาไม่ได้อยู่บ้านทั้งวันเหมือนเรา เราตื่นเช้ามาไปออฟฟิศ ซึ่งมีเขาคนเดียว ตกเย็นกลับมาก็มาเล่นกับลูก เล่นกันแบบเว้นระยะ ฝนอะเว้นระยะ แต่สามีไม่เว้น ใส่แมสก์แล้วนั่งกับทาเรียอย่างนี้เลย ก็ไม่เป็น เขาบอกว่าเธอไม่เข้าใจหรอก คนที่เคยเป็นแล้ว กับได้วัคซีนเยอะ ฝนกับแฟนได้ไปคนละ 4 เข็มแล้ว อย่างน้อยมันค่อนข้างที่จะมีภูมิประมาณนึง เขาบอก เขาอ่านมาแล้วเขาก็มั่นใจของเขา พอเขาเล่นกับลูกเสร็จเขาก็ขึ้นไปอาบน้ำ แต่อิแม่นั่งเกาะบันไดดูลูกอยู่ ช่วงนั้นก็มีเรื่องเครียดอีก ฝนไปตรวจร่างกาย แล้วไปเจอเนื้องอกที่หน้าอก?น้ำฝน : ใช่ ไทม์มิ่งมันเป็นประมาณว่าหลังจากกลับมาจากอเมริกา เราก็ไปตรวจร่างกายเพราะไม่ได้ตรวจมา 2 ปีแล้วเนื่องจากว่าจิ้มทำลูกอยู่ก็เลยไม่ได้ไปตรวจเลย พอตรวจเห็นหน้าหมอปุ๊บเราก็รู้สึกเลยว่าท่าไม่ดี พอตรวจเสร็จมันก็ต้องไปฟังผล หมอพูดประมาณว่ามันมีก้อนเนื้อตรงหน้าอก หน้าตามันแบบหย่อนๆ ถ้าซีสต์มันจะกลม หรือถ้าเป็นก้อนเนื้ออะไรสักอย่าง มันก็จะเป็นกลมๆ เกลี้ยงๆ เขาจะไม่สนใจ พอเขาลอกเหมือนเห็นเป็นเนื้อหย่อยๆ แล้วเหมือนเห็นเส้นเลือดไปเลี้ยงก้อนนั้น กลับบ้านก็เสิชกูเกิลแบบเละเทะเลย หมออยากให้เจอหมอทรวงอกเดียวนั้นเลย เราก็เลยแบบท่าไม่ดีแล้วธัญญ่า : โทรมาทั้งวัน จะเป็นมะเร็งป่ะวะ จะตายไหม ฉันตายไม่ได้ลูกฉันยังเล็ก เราก็เลยบอกฝนอย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อน มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ความเครียดนี่แหละจะทำให้เป็น พี่ก็บอกให้รอเจอหมอก่อน ให้เขาตัดชิ้นเนื้อมาตรวจให้มั่นใจ อย่าไปเครียดก่อนน้ำฝน : พูดง่ายไง เราก็แบบคิด แบบเห็นแต่หน้าลูกลอยมาเลยนะ นั่งจดพาสเวิร์ดทุกอย่างในโทรศัพท์ มีอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง นู่นนี่นั่น เดี๋ยวจะส่งให้แฟน แล้วแบบเหมือนทำพินัยกรรม โอ๊ย...ฉันจะทำยังไง อาการหนักอะ เห็นว่าเข้าไปกอดลูกร้องไห้?น้ำฝน : กอดลูกแล้วน้ำตาไหล กลัวมากไม่อยากเป็น เพื่อนก็บอกว่าเป็นมันรักษาหาย รู้ว่าหายกูก็ไม่อยากเป็น แล้วมันก็เครียด บวกกับกว่าจะเจอหมอก็อีก 4 วัน พอเจอหมอ หมอก็บอกว่าโอกาสที่จะเป็นมัน 20-30 ก็ยังดูเป็นเปอร์เซ็นที่ไม่เยอะ แต่เราไม่สามารถทำไบออกซี่ เอาชิ้นเนื้อไปตรวจได้ทันที เพราะเนื่องจากเรากินยาวิตามินฟีดออยมันจะทำให้เลือดเราไม่แข็งตัว ก็ต้องอดอันนั้น7วันกว่าจะไบออกซี่ได้ แล้วคิดดู 7 วันนั้น เห็นว่าตรวจไบออกซี่หาค่ามะเร็งมันทรมานมาก?น้ำฝน : มันทรมานจิตใจดีกว่า คือ1.ไบออกซี่คือการเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ เขาไม่ได้วางยานอนหลับ ฉีดยาชา แล้วตำแหน่งที่เป็นคือหน้าอก ก็เลยต้องนอนตะแคงแล้วก็ยกแขน หมอก็จะเอาผ้ามาปิดหน้าเรา ฉีดนาชา เราไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่นางพยาบาลเขาจะมาอธิบายให้เราฟังก่อนที่เราจะเข้าไปว่ามันจะเป็นเข้มยาวๆ ทิ่มเข้าไปในนม เสร็จแล้วพอมันตัดมันจะมีเสียงดัง พอตอนตัดมันกระแทกตัว คือตัดประมาณ 10 ชิ้น  ถามว่ากลัวที่เขาทำไหม ไม่กลัว แต่แบบน้ำตามันไหล กลัวจะเป็นอะไร แต่หมอที่ทำ ทำให้เราใจชื่นขึ้นมา เพราะเขาพูดบอกว่าหมอว่ามันดูไม่ใช่นะคะ แค่หมอวินิฉัย เห็นว่าพี่เตรียมวิธีรักษา?น้ำฝน : ระหว่างที่รอผล 7 วันกว่าจะได้ไบออกซี่ กว่าจะรอผลไบออกซี่ออก ไปหาหลายหมอมาก หมอดู หมอจีน คือทุกหมอว่ามันใช่ไหม ทุกคนก็บอกว่ายังไม่ใช่  ที่เราเป็นห่วงคือทาเรียจะมีแม่ใหม่ไม่ได้ แต่สามีจะมีเมียใหม่ได้?น้ำฝน : เราคิดอย่างนี้นะ ถ้าสมมตว่าเราเป็นอะไรไป เวลาเราคุยกับเพื่อนมันก็คิดขึ้นมาเองว่า ถ้าเราเป็นอะไรไป อย่างน้อยสามีก็มีแฟนใหม่ได้ อีก 10 คนเขาก็มีได้ แต่ทาเรียเขาคงหาแม่ใหม่ไม่ได้แล้ว แม่เรามีได้แค่คนเดียว เราก็รู้สึกว่าเหมือนเรายังไม่พร้อม เจายังเล็กอยู่ ใจแบบอยากอยู่กับเขาให้เขาอายุ 30 ได้ไหม มันก็หดหู่ นั่งท้อแท้ ข้าวก็กินไม่ลง ปีหน้าทาเรีย 5 ขวบจะต้องย้ายไปอยู่อเมริกาแล้ว?น้ำฝน : ไม่ใช่ปีหน้า ปีนี้ เชื่อไหมว่าสามีถามบ่อยมาก สรุปแล้วเราเคยคุยกันว่าทาเรีย 5 ขวบแล้วเราจะย้ายแล้วยังไงเราก็เงียบ ฉันว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะอยู่ดีๆ มาคุยแล้วมาแพ็คของไป มันคงมีอะไรที่ต้องจัดการเยอะ แล้วความนอยด์ฉันจะไปอยู่อเมริการอดเหรอ ไม่น่ารอด หาหมอก็ไม่ได้ คือกาได้แหละ แต่มันต้องสตรองมาก แล้วอยู่นั่นเพื่อนก็ไม่มีให้นอยด์ด้วย ตอนฝนไปอยู่ 1-2 เดือนชีวิตเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม?น้ำฝน : เหนื่อยมาก เหนื่อยฉิบหาย เห็นว่ามีทะเลาะกับสามีด้วย?น้ำฝน : ไม่มีพี่เลี้ยง คือไปมากี่ครั้งไม่รู้ มีพี่เลี้ยงเต็มๆ ครั้งเดียว สบายใจมาก ตื่นเช้ามาได้ออกไปวิ่ง กีต้าร์ดูน้องนะเราไปซุปเปอร์ เหมือนอยู่เมืองไทย เวลาไปเองมันอยู่อย่างนี้ มัน 24 ชั่วโมง ตัวเขาก็แอบติดนิสัยว่าอยู่เมืองไทยแล้วมีพี่เลี้ยง เจาก็จะมีความเคยตัวอะไรบางอย่าง เอาจริงๆ ฝรั่งมาอยู่เมืองไทย สปอยเสียนิสัยทุกคน เพราะว่าที่นี่อะไรก็สบาย บางทีเขาชอบบ่นๆ อย่างเดียว เราไปเมืองนอก เราไปอเมริการู้ใช่ไหมว่าเจ็ตแล็กมันทรมานมาก เขาก็พยายามปรับตัวนี้ให้เป็นเวลาปกติให้เร็วที่สุด มันปรับได้ไหม มันยากมาก เนี่ย 9 โมงแล้ว พวกเธอเพิ่งตื่น คิดว่าปีนี้ต้องย้ายไปอยู่อเมริกาไหม?น้ำฝน : ไม่ชัวร์ 50 :...

แอนนา ยกมือไหว้ กระติก กลางรายการคุยแซ่บshow อยากให้พูดความจริง ลั่นยังไงก็จะคอยซัพพอร์ตคุณแม่

ยังคงติดตามประเด็นการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเมื่อวานผลชันสูตรร่างแตงโม ของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคุณแม่ภนิดา พร้อมกับทนายกฤษณะ และทนายเดชา ได้แถลงถึงบาดแผลต่างๆ ที่หลายคนสงสัย ล่าสุด แอนนา, ฮิปโป และ พุดเดิ้ล...

“ดีเจเพชรจ้า” เปิดใจครั้งแรกหลังเซ็นใบหย่า แจงดราม่า “นิวเคลียร์” โดนถล่มไม่เลี้ยงลูก

ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังเซ็นใบหย่ากับอดีตภรรยา “นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์” สำหรับ “ดีเจเพชรจ้าวิเชียร กุศลมโนมัย” ที่เปิดใจแบบหมดเปลือกถึงสาเหตุเลิก รวมไปถึงประเด็นที่อดีตภรรยาถูกตราหน้าว่าไม่เลี้ยงลูกผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง วัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ และหนิง ปณิตา ดำเนินรายการ กลับมาโสดแล้วเต็ม 100% ?เพชรจ้า : ล้านเปอร์เซ็น ชีวิตคนโสดมันไม่ได้เสพมาเป็น 10 ปีแล้ว มันเริ่มมาจากตอนนั้นที่เป็นโควิดแล้วทุกคนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เลิกกัน เราก็กลับมาบ้านคนเดียว เพราะว่าภรรยาและลูกอยู่โรงพยาบาล เราติดโควิดไปก่อนเลยหายก่อนเลยต้องกลับมาอยู่บ้านคนเดียว บ้านร้างอ่ะ เหลือเราคนเดียว เพราะแม่บ้านก็ติดกันหมด ตอนนั้นเหมือนเรารู้สึกว่ามันคือชีวิตอีกแบบเลย เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กมหาวิทยาลัย อยากกินอะไรก็สั่งมา เดินไปเล่นฟิตเน็ต เปิดเพลงเสียงดัง เราก็รู้สึกว่าฟิวแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เหมือนย้อนกลับไป ผ่านไปผ่านมาความรักของผมมันก็มะล็อกป๊อกแป๊กไปเรื่อย จนโอเคจบมาเป็นโสด มันก็เหมือนกับไปเป็นเด็กมหาวิทยาลัยอีกครั้งหนึ่ง งั้นแสดงว่าตอนนี้ ทุกวันนี้แฮปปี้? เพชรจ้า : แฮปปี้แล้วครับ ก็จะมีช่วงแรกที่เฮิร์ทๆ เราคบกันมา 10 ปี พอเปลี่ยนสถานะ ก็เป็นคู่ที่ทุกคนลุ้นมาตลอด 10 ปี? เพชรจ้า : เราก็เสียดายนะ แต่ทั้งคู่ช่วยกันประคับประคองกันมาเรื่อย ตรงหาจุดที่จะไม่มีการทะเลาะกัน ซึ่งจุดนี้ดีที่สุด จุดที่เฮิร์ทที่สุดคือยังไง? เพชรจ้า : นั่งดริ้งคนเดียว 17 วันติดในห้องครัว ตอนที่นั่งดริ้งอดีตภรรยาก็ไปๆ มาๆ  ตอนนั้นส่วนใหญ่ทะเลาะกันเรื่องอะไร?เพชรจ้า : มันจุ๊กๆจิ๊กๆ ไม่มีสาระเลย สำหรับเราคือไม่ได้มีเรื่อง แต่ความคิดคนสองคนมันไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะทนกับการทะเลาะได้ อีกคนอาจจะไม่ชอบการทะเลาะ ไม่ใช่เราปล่อยผ่านแต่เราแก้นิสัยกันไม่ได้สักที เราเลยลองขยับสถานะ ใช้เวลาเป็นปีให้มันลงล็อก มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนล็อกสุดท้ายตกลงกันแบบนี้ ว่าเป็นแบบนี้ดีกว่า ไม่โกรธกันไม่ได้ทะเลาะกันอีกต่อไปแล้ว วันที่คนที่เคยรักกันแล้วมาตกลงใช้สถานะแบบนี้ แล้วต้องมามองหน้ากันมันยากนะ ทำยังไง? เพชรจ้า : ถามว่ารักไหม๊ ก็รัก แต่เราแค่ขยับออกมา ให้แต่ละคนไปมีพื้นที่ทำอะไรที่เขาอยากทำ สถานะตอนนี้ของ “เพชรจ้า” ก็คือ? เพชรจ้า : เป็นห่วงเป็นใย แต่ไม่ใช่ในฐานะคนรักแล้ว จริงๆ ความรักของผมมันแปลกๆ รักเขาเหมือนลูก เพราะเขาเคยบอกว่าชอบผู้ชายที่เหมือนพ่อ เราก็เลยสวมบทบาทแทนพ่อ ดูแลเขาเหมือนพ่อเลย แล้วก็ได้พ่อจริงแต่มันก็อาจจะไม่เวิร์คก็ได้ ผู้หญิงอาจจะอยากได้แฟน ไม่ได้อยากได้พ่อเพิ่ม และอีกอย่างผมเป็นคนหัวโบราณ เวลาใส่ชุดบิกินี เราจะมีความหวง แบบใส่แล้วโป๊ไปรึเปล่า เราชอบดูชอบมองนะ แต่ถ้าเป็นแฟนเราคือหวง เหมือนเรามีของอะไรสักอย่างที่รักมาก เราก็จะดูแลเป็นพิเศษ เราก็จะถนอม คือเราอยากมีความพิเศษอยากเห็นคนเดียว อยากให้เขาเป็นของเราคนเดียว ไม่อยากแชร์กับใคร ก็นั่นแหละเรียกว่าคนหัวโบราณ จัดงานวันเกิด 43 ปี ประกาศจะเข้าสู่วงการแบดบอย ใช้ชีวิตแบบเต็มที่?เพชรจ้า : เปิดรับความบันเทิงทุกรูปแบบ  ถ้าวันหนึ่งมีใครเข้ามาจีบ หรือ “นิวเคลียร์” มีใครเข้ามาจีบจะทำยังไง? เพชรจ้า : ก็ดีใจด้วย ขอให้ได้เจอคนดีๆ คือก่อนที่เราจะหย่ากัน เราใช้เวลา 1 ปีในการกลั่นกรอง จนเราตกผลึก หลังจากโสดเลยฟอร์มทีมเพื่อนๆ มีโอกาสเจอกับเพื่อน เพื่อนๆ ก็โสดกันหมด เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องไปกังวลว่าจะไร้คู่อีกอย่างเราชอบอยู่กับลูก เพราะฉะนั้นลูก และเพื่อนก็เติมเต็มเรา เราเลยไม่ได้คิดว่าจะต้องไปหาเมียหรืออะไร  หลังจากโสดติดตามไอจีผู้หญิงเยอะ?  เพชรจ้า : คือมีแฟนจะไม่ติดตามผู้หญิงเลย แต่พอไม่มีแฟนเลยหันมามาดูสิ่งสวยงามบ้างดีกว่า อันไหนดูดีเราก็ไปติดตาม ช่วงแรกจะไปติดตามคนที่ไม่มีบิกินี่ แต่หลังๆ ดูไปดูมาบิกินี่ก็น่ารัก ไม่มีก็น่ารัก  มีคนทักมาหาบ้างมั้ยไปกดติดตามเขา ? เพชรจ้า : ก็มีบ้างครับ บางคนเราก็ส่งอิโมจิยิ้มกลับไป แต่ส่วนมากเราก็ตอบหมด เพราะมีลูกค้าที่ DM มาซื้อเวย์เราเยอะ จากนี้ไปถึงผู้หญิงจะดียังไงก็จะไม่แต่งงานอีก ? เพชรจ้า : คือผมเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง กิจกรรมเยอะ ดูตารางชีวิตแล้วจะแทรกยากพอสมควรถ้าต้องมีใครสักคน   เข็ดกับความรักมั้ย? เพชรจ้า : ไม่เข็ด เพราะว่าน้องนิวเคลียร์เขาไม่ได้ทำอะไรผม เราก็มีต่อกันมา เวลาเรามีใครสักคนเราก็ต้องการความรักความเอาใจใส่ตลอดเวลา แต่เราเพิ่งจะฟูลไทม์มา จากภรรยาก็ย้ายไปที่ลูก ตอนนี้ยังไม่เจอคนที่ใช่ ตั้งแต่โสดมา ถ้าเจอคนที่ใช่อาจจะเปิดใจ? เพชรจ้า : คือมันยากนะ ถ้าเลี้ยงลูก เรารักลูกมาก อยากอยู่กับลูกทุกนาที ติดลูกหนัก ดมทั้งวัน แต่คิดว่าอีกนาน ตอนนี้ขอเต็มที่กับชีวิต อีก 5 ปี 10 ปี ค่อยว่ากัน เรามีความคิดอยากถ่ายรายการกับเพื่อนชายล้วน ตะลุยรอบโลกแต่ตอนนี้ได้ทำแล้ว สมมตถ้ามีใครสักคน ที่เราตั้งกำแพงไว้สูง เขาจะทลายกำแพงยังไง? เพชรจ้า : คือผมเป็นคนง่ายๆ แต่มีสไตล์ส่วนตัว คือผมยอมได้หมด รูปร่างหน้าตาไม่ได้สนใจ แต่ฝรั่งได้นะ คือผมอยากมีลูก 4 คน แต่ตอนนี้มีมา 1 คน ผมอยากมีลูกแบบเป็นฝรั่งชาติไหนก็ได้ เดิมทีที่เคยให้สัมภาษณ์ไปเพราะผมอยากมีลูกเยอะๆ    มีโอกาสกลับไปรีเทิร์นกันมั้ย? เพชรจ้า : โอโห ผมว่าจุดนี้มันดีมากแล้ว ดีสุดๆ แล้ว ไม่ต้องมาทะเลาะกัน ไม่ต้องเถียงกัน เจอกันกินข้าวด้วยกันได้...

“ดีเจมะตูม” เปิดใจหลังบวช พร้อมเล่ามรสุมชีวิต หนักสุดจนเกือบคิดฆ่าตัวตาย!!!

ดีเจฝีปากกล้า อย่าง มะตูม เตชินท์ ที่ชีวิตขับเคลื่อนด้วยการด่า ด่าจนดัง เกาะคนดังจนมีชื่อเสียง ทำให้เกิดแฮชแท็ก #ตูมสนิท พร้อมเปิดมรสุมครั้งใหญ่ของชีวิตกับการจัดปาร์ตี้วันเกิดจนติดโควิด-19 โดนด่า โดนประณาม จนอยากจบชีวิตในคืนวันที่ 29 มกราคม โดยงานนี้ดีเจมะตูมได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค...

นิชคุณ ยิ้มรับตำแหน่งลุง พร้อมอัพเดต คัมแบ็ควงในรอบ 5 ปี !

หนุ่มนักร้องสุดฮอตอย่าง นิชคุณ หรเวชกุล หรือ นิชคุณ 2PM ที่วันนี้จะมาเปิดเผยทุกประเด็นตั้งแต่เรื่องได้รับตำแหน่งเป็นคุณลุง จากสมาชิกในบ้านที่มีเพิ่ม และยังย้อนเล่าเส้นทางก่อนเดบิวต์เป็นเด็กฝึกหัดค่าย JYP ที่งานนี้ไม่ง่าย แถมยังเคยคิดท้อ และอัพเดตสถานการณ์โควิดอุปสรรคที่ทำเอางานหาย จนถึงกลับมารวมตัวกับเพื่อน 2PM หลังจากห่างหายกันไป 5 ปี ทุกประเด็นในรายการ คุยแซบSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยวัฒน์ และบูมสุภาพร ดำเนินรายการ ไม่ได้กลับมาเมืองไทย 2 ปีแล้ว?นิชคุณ : คิดถึงเมืองไทย แล้วก็คิดถึงครอบครัวด้วย กลับมาครั้งนี้มีสมาชิกใหม่ในครอบครัวด้วย อยู่ที่เกาหลีใต้ มีช่วงนึงบินไปถ่ายหนังที่ฮ่องกง มีจีนด้วย ช่วงโควิดที่เกาหลีเป็นยังไง?นิชคุณ : ผมเป็นคนชอบอยูบ้าน พยายามไม่ไปที่ที่มนคยเยอะ แออัด มีไปฟิตเนส ไปกินข้าวข้าวนอก 3 ทุ่มปิดหมดเลยไปยิมก็ต้องใส่แสม อึดอัดมาครับแต่ก็ต้องดูแลตัวเอง โควิดกระทบอะไรกับเรามากที่สุด?นิชคุณ : อิสรภาพในการบิน การไปเที่ยว บินไปไทย-เกาหลี หรือเพื่อไปทำงาน ส่วนใหญ่ผมทำงานต่างประเทศ ช่วงนี้บินบ่อยไม่ได้งานก็ลดลง แต่ได้พักมากขึ้น ข่าวโควิดที่ไทยห่วงอะไรมากที่สุด?นิชคุณ : ห่วงคุณแม่ คุณยายครับผม จริงๆคุณยายไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเท่าไหร่ค่อยยังชั่ว แต่คุณแม่ชอบออกไปทำงาน ไปออฟฟิศ เข้าบริษัท ผมจะโทรไปบอกแม่ แม่อยู่บ้านเถอะถ้ามีอะไรให้พี่ชายเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ แม่ก๋บอกต้องไปดูแลพนักงาน แต่มีมาตรการมีพนักงานไม่กี่คนเข้ามาในออฟฟิศได้ มีการตรวจอยู่ตลอด กลับมาไทยคราวนี้อยากไปเที่ยวที่ไหน?นิชคุณ : ผมอยากไปหัวหินครับ ตอนผมเด็กที่อยู่เมืองไทย ปิดเทอมทุกๆครั้งก็จะพากันไปทั้งครอบครัวหลายๆคน มันเป็นความทรงจำที่ยังติดอยู่ในหัวผมถ้ามาเมืองไทย ถ้ามีเวลาต้องไปหัวหิน ครั้งนี้หวังว่าจะได้ไป ไปนั่งฟังคลื่นดูทะเลนานๆทีได้ไปเที่ยวเพราะตอนเด็กผมกิจกรรมเยอะมากแทบจะไม่มีเวลาเลย พอปิดเทอมคุณพ่อคุณแม่จะพาไปเที่ยว ตอนนี้มีสมาชิกเพิ่มอีก 1 คน?นิชคุณ : ใช่ครับ ยังไม่ได้เจอเลย เพราะผมเพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน กลับมาก็โปรโมทหนังเลยยังไม่มีเวลา แล้วก็ไม่อยากให้พาน้องออกมาข้างนอกเพราะยังเด็กอยู่ เดี๋ยวไปหาที่บ้าน ต้องรอทำงานให้เสร็จก่อน ได้ตำแหน่งเป็นลุง?นิชคุณ : แฟนคลับเรียกผมว่าเป็นลุงตั้งแต่หลายปีก่อนแล้วได้เป็นลุงจริงๆ ความรู้สึกมันแปลกๆนิดนึงทีน้องคนสุดท้องของครอบครัวผมไปก่อนคนแรกเลย แต่งก่อนมีลูกก่อน เรา 3 คนที่เหลือก็คนต่อไปจะเป็นใคร เพราะเห็นแม่มีความสุขกับหลานมาก อยากมีหลานให้แม่เหมือนกัน?นิชคุณ : ใจผมเป็นคนรักชอบอยู่กับเด็กแต่มันมีหลายปัจจัยจะมีลูกมีครอบครัว ต้องเจอคนที่ใช่จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่เจอกันไม่ถูกกันเลิกกันได้ ยิ่งมีลูกมีครอบครัวยิ่งต้องคิดให้เยอะกว่านี้ เห่อหลานมั้ย?นิชคุณ : ผมไม่เคยไปซื้อเสื้อผ้าเด็กมาก่อน แต่ครั้งนี้ผมคิดว่าจะไปซื้อเสื้อผ้าเด็กให้น้องจินเจอร์ ผมคิดว่าซื้อใหญ่ๆไปก่อน ของที่ผมแบกกลับมาได้ ในสายตายังมองว่าน้องสาวเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม?นิชคุณ : เพิ่งเจอกันเมื่อวันสองวันที่แล้วทานข้าวด้วยกัน รูปร่างหน้าตาเค้ายังเป็นเด็กคนเดิมที่ผมรู้จัก แต่การวางตัวการพูดจาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้เยอะเลย อาจจะเป็นเพราะความรับผิดชอบที่เค้ามีมากขึ้น เพราะว่าการมีลูก ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่มาก มันเห็นได้จากการพูดจา รู้สึกภูมิใจและดีใจกับน้องด้วย หวังว่าเฌอรีนจะเลี้ยงน้องจินเจอร์มาให้เป็นคนที่ดีนะคะ ทำไมถึงไปอยู่ใน 2PM ได้?นิชคุณ : ตอนนั้นผมเรียนที่อเมริกา มีเคป็อปคอนเสิร์ต ผมไปกับเพื่อนๆชาวเกาหลี มีแมวมองมาเห็นผมอยากให้ไปออดิชั่นที่เกาหลี ตอนนั้นก็คิดอยู่เพราะผมก็ร้องไม่เป็นเต้นก็ไม่เป็น พูดภาษาเกาหลีก็ไม่ได้ ไม่มีใครที่ผมรู้จักอยุ่ที่เกาหลีเพื่อนหรือครอบครัวมันก็คงยาก ก็ไปออดิชั่น ไม่รู้ว่าเค้าชอบผมจากอะไรร้องก็ไม่ได้เต้นก็ไม่ได้ ไม่มีทักษะทาเลนซ์ในด้านนี้เลย ไม่ได้หวังอะไรแต่ 2-3 อาทิตย์ให้หลังเค้าก็โทรกลับมา บินมาเดือนหน้าเลยได้มั้ยเริ่มฝึกซ้อม ตอนนั้นกดดันมั้ย?นิชคุณ : กดดันครับ รู้สึกเหมือนมองอนาคตไม่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะต้องไปประเทศใหม่ที่ผมไม่เคยไปมาก่อนต้องไปเรียนรู้ตั้งแต่ 0 ขึ้นมา เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างใหมหมดเลยครับ ตื่นเต้น แต่คุณพ่อคุณแม่บอกว่าโอกาสมันเป็นหนึ่งในล้าน ลองไปเถอะ ถ้าไม่ได้ก็กลับมาเรียน ลองอยู่สักปีนึง เป็น 2PM ได้เพราะคุณพ่อคุณแม่?นิชคุณ : เพราะคุณยายครับผม คุณยายชอบ Full House เป็นแฟนพี่เรน ตอนแรกก็ไม่มีใครให้ไป เค้าก็ถามไปบริษัทไหน บอกว่า JYP คุณยายบอกไปเลยเดี๋ยวนี้ ก็เลยไป ตอนแรกลังเลว่าจะถูกหลอกมั้ย?นิชคุณ : ตอนนั้นคิดว่ามิจฉชีพแน่นอน อยู่ดีๆเค้าเข้ามาหาผมกลับไปโรงแรมเค้าย ไปถ่ายออดิชั่นกันมั้ย ผมไม่ได้ไปคุยกันประมาณอาทิตย์กว่า ได้มาถ่ายทำออดิชั่นกันที่ร้านกาแฟ เค้าก็ให้เราร้องเต้น โพสต์ แนะนำตัวเอง ตารางการซ้อมเป็นยังไง?นิชคุณ : ในบริษัทมีห้องซ้อมเต้น มีห้องซ้อมร้อง ข้างบริษัทจะมีหอ เหมือนไปอยู่โรงเรียนประจำครับ เช้าเข้าบริษัทมีตอกบัตร ซ้อม เรียน พักเที่ยง ต้องอยู่ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ถึงจะตอกบัตรกลับบ้านได้ มีต้องออกไปเรียนภาษาเกาหลี ก็ต้องกลับมาเรียนร้อง เต้น หรือแร็ป...

You may have missed